เรียกได้ว่าเป็นคำถามยอดฮิตที่คุณหมอทุกคนต้องเจอว่า Ulthera กับ Hifu มีความแตกต่างกันอย่างไร จริงๆ แล้วเจ้าสองเครื่องนี้เปรียบเสมือนพี่น้องกันที่มีการทำงานที่คล้ายคลึงกัน ในการช่วยยกกระชับใบหน้าด้วยเทคโนโลยีอัลตราซาวด์ ทำให้ผิวหน้ากระชับ กรอบหน้าชัดขึ้น แต่เรื่องประสิทธิภาพในการยกกระชับนั้นเป็นอย่างไร ต้องมาดูกัน
สารบัญ
- Ulthera คืออะไร
- การทำงานของ Ulthera
- ข้อดีของการทำ Ulthera
- ข้อเสียของการทำ Ulthera
- Hifu คืออะไร
- ข้อดีของ Hifu
- ข้อเสียของ Hifu
- Ulthera กับ Hifu แตกต่างกันอย่างไร
- Ulthera กับ Hifu เหมาะกับใคร
- Ulthera กับ Hifu เหมาะกับการแก้ปัญหาผิวหน้าแบบใด
Ulthera คืออะไร
Ulthera (อัลเทอร่า) คือ เทคโนโลยีการใช้พลังงานคลื่นอัลตร้าซาวด์ความถี่สูง MFU-V (Microfocus Ultherasound with Visualization) ส่งพลังลงลึกไปถึงชั้นผิว SMAS ซึ่งเป็นระดับชั้นผิวเดียวกับที่แพทย์ใช้ในการผ่าตัดดึงหน้า โดยเน้นกระตุ้นไปที่เซลล์ของชั้นผิวหนัง SMAS ให้หดตัวจนเกิดการสร้างเนื้อเยื่อและคอลลาเจนขึ้นมาใหม่เหมือนกับการเย็บชั้นเนื้อเยื่อ ซึ่งจะช่วยฟื้นฟูเซลล์ผิวได้ลึกถึงชั้นผิว SMAS โดยไม่ต้องผ่าตัดศัลยกรรม ช่วยให้ผิวตึงกระชับและเรียบเนียนขึ้นทันทีหลังทำ
Ulthera ถือเป็นนวัตกรรมการยกกระชับผิวที่มีความแม่นยำและปลอดภัยมากที่สุด เพราะในระหว่างการรักษา แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะสามารถมองเห็นชั้นผิวของผู้เข้ารับการรักษาแบบชั้นต่อชั้น โดยผ่านหน้าจอแสดงผลของเครื่อง ดังนั้นแพทย์จึงสามารถปรับการรักษาให้เหมาะสมกับสภาพผิวหนังของผู้เข้ารับการรักษาแต่ละคนได้โดยไม่ก่อให้เกิดบาดแผล
การทำงานของ Ulthera
Ulthera จะส่งคลื่นอัลตร้าซาวด์โดยเน้นไปที่ชั้นผิวหนังเช่นเดียวกับที่ศัลยแพทย์ทำการผ่าตัด (SMAS) แก้ไขในการทำศัลยกรรมตกแต่งโดยไม่ต้องผ่าตัด พลังงานนี้จะกระตุ้นให้ร่างกายเกิดการตอบสนองตามธรรมชาติเพื่อช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ และช่วยฟื้นฟูคอลลาเจนที่อ่อนแอให้แข็งแรงมีชีวิตชีวาขึ้น
หลังจากทำเสร็จแล้ว สามารถเห็นผลลัพธ์เบื้องต้นได้ในทันทีหลังจากได้รับการทำประมาณ 20-30% และจะปรากฏผลลัพธ์ที่เห็นได้ชัดจะในเวลา 2-3 เดือนเนื่องจากคอลลาเจนใหม่ที่เกิดขึ้นจากค่อยๆ ยกระชับผิวบริเวณใบหน้าและลำคอ รวมทั้งทำให้ผิวบริเวณเนินอกเรียบเนียนขึ้น
ข้อดีของการทำ Ulthera
- ทำเพียงครั้งเดียวผลลัพธ์อยู่ได้นานกว่า 1 ปี
- เห็นผลตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำประมาณ 30%
- เป็นเครื่องยกกระชับที่มีการยอมรับว่าปลอดภัย เป็นที่ยอมรับจากทั่วโลก
- สามารถกระตุ้นคอลลาเจนใต้ผิวหนัง ช่วยฟื้นฟูโครงสร้างผิวให้ดูเรียบเนียน รูขุมขนกระชับ มีความยืดหยุ่น หน้าดูกระจ่างใสขึ้น
- Ulthera เป็นเครื่องมือยกกระชับยี่ห้อเดียวที่มีระบบแสดงหน้าจอการรักษาแบบ Real Time ขณะทำหมอสามารถเห็นชั้นผิวในชั้นที่ต้องการยกกระชับได้
- สามารถลงลึกถึงใต้ผิวหนังชั้น smas (Superfical Muscular Aponeurotic System) ซึ่งเป็นชั้นเดียวกับการผ่าตัดดึงหน้า
Hifu คืออะไร
Hifu หรือ ไฮฟู่ เป็นนวัตกรรมการใช้คลื่นอัลตร้าซาวด์ความเข้มข้นสูงส่งพลังเข้าไปเพื่อกระตุ้นเนื้อเยื่อในชั้นผิว SMAS เพื่อกระตุ้นจนเกิดการสร้างเนื้อเยื่อ เส้นใยอีลาสติน และคอลลาเจนขึ้นมาใหม่ หลังทำจึงรู้สึกว่าผิวยกกระชับขึ้น ริ้วรอยจางลง และผิวเรียบเนียนขึ้น
คลื่นอัลตราซาวด์นั้นจะส่งผลโดยตรงกับผิวหน้า ทำให้เนื้อเยื่อใต้ผิวหน้าเกิดการหดตัวและยึดติดกันได้ดี มีลักษณะคล้ายการเย็บเนื้อเข้าหากัน นอกจากนี้ยังกระตุ้นการผลิตและซ่อมแซมคอลลาเจนในผิวอีกด้วย ผิวหลังทำไฮฟู่ (Hifu) จึงมีความกระชับ เต่งตึง ร่องลึกบนใบหน้าดูตื้นขึ้น
ป็นเทคโนโลยีความงามรูปแบบใหม่ที่ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องใช้เข็มฉีดยา และไม่ใช่การใช้รังสียิงเข้าสู่ผิวโดยตรง จึงถือว่าเป็นวิธีการยกกระชับหน้าที่มีความเสี่ยงน้อยมาก สามารถทำได้ทั่วใบหน้า แม้แต่บริเวณใต้ตาและเปลือกตาบน ที่โดยปกติแล้วมักหลีกเลี่ยงการศัลยกรรมกระชับผิว ก็สามารถทำได้ ถือว่าเป็นวิธีการยกกระชับหน้าที่ทำซ้ำได้บ่อยวิ
ข้อเสียของ Hifu
- หลังการทำ บางท่านอาจมีแดงบ้างหลังทำ แต่จำหายไปได้เองภายใน1-2 ชั่วโมง
- ระหว่างทำอาจจะมีการเสียวฟันในบริเวณจุดที่อุดฟันมา
- รู้สึกเมื่อยๆ ระหว่างทำ เหมือนใบหน้าได้ออกกำลังกายมา ซึ่งก็แปลว่าความร้อนกำลังทำงานอยู่ หากใช้พลังงานสูงเกินไปกับคนที่ผิวบาง อาจจะเกิดตุ่มน้ำเล็กๆ บางจุดได้
- หลังทำบางท่านอาจจะรู้สึกหน้าแห้งเพราะมีความร้อนอยู่ภายใน แนะนำให้ทาครีมบำรุงในช่วงแรก
Ulthera กับ Hifu แตกต่างกันอย่างไร
ระดับพลังงานต่างกัน
แม้จะเป็นการใช้คลื่นอัลตร้าซาวด์เหมือนกัน แต่มีความแตกต่างกัน โดยเครื่อง Ulthera จะมีระดับพลังงานสูงกว่า ทำให้ผลลัพธ์ที่ทำออกมาชัดเจนและยาวนานกว่าการทำไฮฟู (HIFU) และการทำ Ulthera ยังมีหน้าจอที่สามารถเห็นชั้นผิวขณะยิงแบบเรียลไทม์ ทำให้รักษาได้ตรงจุดและแม่นยำมากกว่า แต่ก็แลกมาด้วยความเจ็บที่มากกว่า บางคนอาจจะทนไม่ได้ และราคาที่สูงกว่า 2-3 เท่าตัว
จุด Focus ต่างกัน
จุด Focus ของเครื่องไฮฟู (HIFU) จะมีขนาดเล็กไปจนถึงกลาง ส่วนของเครื่อง Ulthera จะมีจุด Focus ขนาดใหญ่กว่า จุด Focus นั้นถ้ายิ่งใหญ่จะยิ่งดี เพราะมันส่งผลต่อการคงอยู่ของผลลัพธ์ ยิ่งมีขนาดใหญ่ ผลลัพธ์ก็จะดีและอยู่ได้นานมากขึ้น
Ulthera มีหน้าจอแสดงผล
หน้าจอ Realtime สามารถเห็นชั้นผิวหนัง จึงทำให้สามารถยิงคลื่นอัลตราซาวด์ ไปตรงชั้นไหนของผิว เรียกได้ว่าแม่นยำสุด มีประสิทธิภาพทุกชอต เพราะการที่เรายิงแบบไม่เห็นว่าคลื่นโฟกัสอัลตราซาวด์ลงไปชั้นผิวไหน ในบางครั้ง นอกจากจะไม่ได้ประสิทธิภาพสูงสุดแล้ว ถ้าเทคนิคการยิงไม่ถูกต้องอาจเกิดผลข้างเคียง เช่น การไหม้ที่ผิวบนได้
Ulthera มีหัวในการรักษาที่หลากหลายกว่า
หัว 3 ระดับของ Ulthera ได้แก่ หัว 1.5 mm. หัว 3 mm. และ หัว 4.5 mm จึงสามารถเข้าถึงชั้นผิวได้สามระดับ มีหัวแบบที่เป็นหัวตาโดยเฉพาะ ซึ่งจะสามารถเข้าบริเวณเล็กๆ ที่หัวใหญ่เข้าถึงยาก เช่น ใต้ตา หรือ ข้างจมูกได้ดี
ราคาแตกต่างกัน
ราคาของ Ulthera กับ Hifu แตกต่างกันอย่างชัดเจน โดยราคาเริ่มต้นต่อการยิง 300 ช็อตของ Hifu จะเริ่มต้นที่หลักพัน ในขณะที่ราคาของ Ulthera ก็ไปที่หลักสามหมื่นแล้ว แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นราคาในการใช้เทคโนโลยียกกระชับใบหน้าขึ้นอยู่กับปัญหาของแต่ละคนว่ามีมากน้อยเพียงใด ถ้ามีปัญหาเยอะก็อาจจะต้องเสียเงินตามจำนวนที่ต้องใช้ในการยิง
Ulthera กับ Hifu เหมาะกับการแก้ปัญหาผิวหน้าแบบใด
- แก้ไขใบหน้าหย่อนคล้อยบริเวณแนวขากรรไกร หรือ แนวกราม
- แก้ไขปัญหาร่องแก้มลึก แก้มคล้อย ให้กระชับขึ้น
- กระชับรอบดวงตาและถุงใต้ตาหย่อนคล้อย
- ยกคิ้วให้ดูสวย เป็นธรรมชาติ เพื่อดวงตาที่กลมโตมากขึ้น
- สร้างกรอบหน้า ให้ชัดเจนขึ้น ใบหน้ากระชับมากยิ่งขึ้น
สรุป
Ulthera กับ Hifu มีความคล้ายคลึงกันในแง่ของการทำงาน ประสิทธิภาพในการยกกระชับ และระยะเวลาของผลลัพธ์ที่ได้นั้นแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด แต่การทำ Ulthera จะมีความแม่นยำมากกว่าเพราะมีหน้าจอแสดงผลขณะที่การรักษา จะเห็นชั้นผิวภายใน จึงทำให้ผลลัพธ์ออกมามีประสิทธิภาพกว่า