ฟิลเลอร์ Juvederm สารเติมเต็มสาร HA ในการปรับรูปหน้าที่มีชื่อเสียงโด่งดังทั่วโลก จากประเทศสหรัฐอเมริกา ได้รับความไว้วางใจจากแพทย์ทั่วโลก ผลิตโดยบริษัท Allergan ฟิลเลอร์ juvederm เป็นฟิลเลอร์กลุ่ม Hyaluronic Acid ที่มีคุณภาพ ได้มาตรฐาน ผ่านการรับรองจาก US FDA และ อย. ประเทศไทย
สารบัญ
- เหตุผลที่ฟิลเลอร์ Juvederm เป็นอันดับหนึ่งในใจแพทย์ทั่วโลก
- ทำความรู้จักฟิลเลอร์ Juvederm แต่ละรุ่น
- ฟิลเลอร์ Juvederm ใช้ฉีดตรงไหนได้บ้าง
- ฟิลเลอร์ Juvederm ราคาเท่าไหร่
- ข้อปฏิบัติก่อนและหลังการฉีดฟิลเลอร์ Juvederm
- ผลลัพธ์หลังการฉีดรักษาฟิลเลอร์ Juvederm
- ฟิลเลอร์ Juvederm อันตรายไหม
- ฟิลเลอร์ Juvederm อย.ไทย จุดจับผิดกับฟิลเลอร์ปลอม

เหตุผลที่ฟิลเลอร์ Juvederm เป็นอันดับหนึ่งในใจแพทย์ทั่วโลก
ฟิลเลอร์ Juvederm มีข้อดีอยู่หลากหลายประการ ทำให้แพทย์ส่วนใหญ่ทั่วโลกไว้วางใจ และเลือกใช้เพื่อให้ผลลัพธ์หลังการรักษาเกิดกับคนไข้ได้อย่างสมบูรณ์แบบที่สุด โดยมีเหตุผลรองรับดังต่อไปนี้
- ฟิลเลอร์ Juvederm มีเทคโนโลยีการผลิตที่ช่วยยืดอายุ ให้ตัวยาในสภาวะปกตินั้นย่อยสลายได้ยาก มีอายุอยู่ได้นานกว่าฟิลเลอร์ยี่ห้ออื่นๆ แต่หากเกิดภาวะที่ต้องการรักษาเมื่อเกิดปัญหาจากฟิลเลอร์ เช่น ฟิลเลอร์อุดตันเส้นเลือด หรือ ผู้รับการรักษาด้วยฟิลเลอร์จูวิเดิร์มไป แต่อยากนำออก ฟิลเลอร์ Juvederm สามารถตอบสนองได้ดีด้วยการฉีดสลายด้วยเอนไซม์ไฮยารูโรนิเดส ทำให้สามารถสลายตัวยาเมื่อเกิดปัญหาขึ้นให้กับคนไข้ได้อย่างรวดเร็ว และคนไข้ไม่จำเป็นที่จะต้องผ่าตัดเอาออก นี่จึงเป็นข้อดีที่ทำให้แพทย์ให้การยอมรับและเลือกใช้งาน
- ผลิตภัณฑ์ฟิลเลอร์ Juvederm มีการสนับสนุนแพทย์เข้าร่วมประชุมวิชาการระดับโลก กับแพทย์ต่างชาติที่เป็นผู้คิดค้นวิธีการฉีดรักษาต่าง ๆ ในชื่อ Allergan medical institute ทำให้แพทย์ที่เลือกใช้ ฟิลเลอร์ Juvederm ได้รับการฝึกฝนอย่างต่อเนื่องผลลัพธ์หลังการรักษาสำหรับคนไข้ก็จะออกมาดีขึ้นเรื่อย ๆ และอัพเดทตลอดเวลาทั่วโลก
- ฟิลเลอร์ Juvederm มีผลการทดลองในห้องปฏิบัติการมากมายถึงประสิทธิภาพที่ดีเยี่ยม รวมถึงการทดลองในสัตว์ทดลองและมนุษย์ ว่ามีความปลอดภัยสูง ไม่มีอันตรายหากใช้ทำการรักษาอย่างถูกต้อง ถูกวิธี โดยจำนวนผลการทดลองถือว่ามีมาสนับสนุนผลการรักษาอย่างต่อเนื่องเรื่อย ๆ เป็นอันดับต้น ๆ ของยี่ห้อฟิลเลอร์ในท้องตลาดทั่วโลก
- ฟิลเลอร์ Juvederm มีการผสมยาชามาจากโรงงานผลิตทุกรุ่นเรียบร้อย ทำให้ผู้เข้ารับการรักษารู้สึกสบาย แม้กระทั่งผู้ที่กังวลในเรื่องความเจ็บ ขณะรักษาก็สามารถสบายใจได้

ทำความรู้จักฟิลเลอร์ Juvederm แต่ละรุ่น
ปัจจุบันในประเทศไทย มีฟิลเลอร์ Juvederm ทุกรุ่นจะมียาชาผสมอยู่เป็นที่เรียบร้อย ทำให้ผู้เข้ารับการรักษารู้สึกสบายขณะที่รับการฉีดฟิลเลอร์ โดยฟิลเลอร์ Juvederm มีทั้งหมด 6 รุ่นด้วยกัน ได้แก่
ฟิลเลอร์ Juvederm Voluma
ฟิลเลอร์ Juvederm Voluma จะเป็นรุ่นฟิลเลอร์ที่แพทย์ทั่วโลกใช้กันมากที่สุด เพราะว่ารุ่นนี้จะมีค่าความเข้มข้นของไฮยารูลอนิกแอซิดสูงที่สุด ใช้ทดแทนการฉีดรักษาได้ทุกจุดบริเวณใบหน้า ยกเว้นในส่วนที่เป็น ใต้ตา และริมฝีปาก ที่ตัวยาอาจจะดูแข็งไปสำหรับตำแหน่งนี้ การแก้ไขด้วยฟิลเลอร์ Juvederm รุ่นนี้สามารถให้ผลลัพธ์หลังการรักษาได้อยู่คงยาวนานถึง 24 เดือน

ฟิลเลอร์ Juvederm Volift
สำหรับคนที่อยากเติมเต็มริมฝีปากให้ได้รูปคมชัด สวยงาม แนะนำฟิลเลอร์ Juvederm รุ่น Volift ถือเป็นรุ่นที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก รวมถึงมีปริมาตรและความชุ่มชื้นที่มากขึ้น โดยหลังการฉีดรักษาด้วยฟิลเลอร์รุ่นนี้ สามารถอยู่ได้นานถึง 18 เดือน ความเข้มข้นของไฮยารูลอนิกแอซิดของฟิลเลอร์รุ่นนี้ จะเป็นรองรุ่นฟิลเลอร์ Juvederm Voluma อยู่เล็กน้อย แต่ถ้าหากใครมีผิวที่บางมากๆ การเติมเต็มด้วยฟิลเลอร์รุ่นนี้ก็ถือว่าตอบโจทย์ด้านความเป็นธรรมชาติได้ดีมากเลยทีเดียว

ฟิลเลอร์ Juvederm Volbella
ฟิลเลอร์ Juvederm รุ่น Volbella เป็นรุ่นยอดฮิตที่แพทย์ความงามทั่วโลกใช้เพื่อเติมเต็มแก้ไขปัญหา ร่องใต้ตาลึก ใต้ตาคล้ำ เพราะเป็นรุ่นที่มีค่าความเข้มข้นของไฮยารูลอนิกแอซิด รองลงมาจากรุ่น Volift ถ้าหากผู้เข้ารับการรักษาต้องการฉีดเพื่อแก้ไขฟิลเลอร์ใต้ตานี้แล้ว แน่นอนว่าแพทย์ที่ให้การรักษาจะหยิบรุ่นนี้มาใช้

นอกจากการเติมเต็มบริเวณใต้ตา หากใครต้องการมีเนื้อปากที่อวบอิ่มมากขึ้นโดยที่ไม่เน้นเรื่องของความคมขอบปาก ก็สามารถใช้ฟิลเลอร์ Juvederm Volbella นี้ในการรักษาได้เช่นเดียวกัน หลังการฉีดฟิลเลอร์ตัวยาสามารถคงสภาพใต้ผิวได้นานถึง 15 เดือนหลังรับการรักษา
ฟิลเลอร์ Juvederm Volite
ถือเป็นฟิลเลอร์น้องใหม่ของประเทศไทย ที่มีคุณสมบัติแปลกไปจากฟิลเลอร์รุ่นอื่นๆ ในค่ายของ Juvederm เนื่องมาจากฟิลเลอร์ Juvederm Volite นี้ไม่ได้โดดเด่นในด้านของการปรับรูปหน้า แต่มีความสามารถในการปรับปรุงคุณภาพผิวของเรา ให้ดูอิ่มน้ำ ยืดหยุ่นมากขึ้น เรียบเนียนมากยิ่งขึ้น

ใครที่มองหาการรักษาคุณภาพผิว หรือแม้แต่การรักษาหลุมสิวด้วยการฉีดฟิลเลอร์เอง ก็สามารถใช้ฟิลเลอร์ Juvederm Volite นี้ในการแก้ไขปัญหาได้เช่นเดียวกัน ตัวยานี้สามารถอยู่ได้นานถึง 9-12 เดือนหลังรับการรักษา
ฟิลเลอร์ Juvederm Ultra XC
เป็นกลุ่มฟิลเลอร์ Juvederm ที่เป็นเทคโนโลยีการผลิตแบบเก่า Hylacross โดดเด่นในเรื่องของการฟูขึ้นของตัวยา เนื่องมาจากความเข้มข้นของไฮยารูลอนิกแอซิดนั้นสูง แต่ว่าอายุขอองตัวยาหลังการฉีดรักษาจะอยู่ได้สั้นกว่าเทคโนโลยีการผลิตแบบใหม่ในกลุ่ม Vycross ที่พัฒนาให้ตัวยานั้นอยู่ได้นานมากขึ้น
ฟิลเลอร์ Juvederm Ultra plus XC
ฟิลเลอร์รุ่นนี้เป็นที่นิยมอย่างมากในกลุ่มฟิลเลอร์ Hylacross เนื่องจากความเข้มข้นของไฮยารูลอนิกแอซิดที่สูงแล้ว ยังมีแรงยกของตัวยาที่เพิ่มขึ้น จึงเป็นที่นิยมอย่างมากในการเติมเต็มตำแหน่งที่ต้องการขึ้นฟูของฟิลเลอร์ โดยหลังการฉีดฟิลเลอร์ รุ่น Ultra plus XC นี้สามารถอยู่ในชั้นใต้ผิวเราได้นาน 12 เดือนเลยทีเดียว

ฟิลเลอร์ Juvederm ใช้ฉีดตรงไหนได้บ้าง
ฟิลเลอร์ Juvederm มีหลากหลายรุ่นให้เลือกใช้เป็นอย่างมาก ตามที่ได้กล่าวถึงในหัวข้อด้านบน ทำให้แพทย์สามารถใช้ในการแก้ไขปัญหาให้กับคนไข้ ได้อย่างตรงตามความต้องการ ทุกจุดของบริเวณใบหน้า แบบไม่มีข้อยกเว้น นอกจากนี้ยังสามารถไล่ระดับตั้งแต่ชั้นลึก จนถึงผิวชั้นตื้นได้ทุกรุ่น สามารถเปลี่ยนแปลงรุ่นให้เหมาะสมตามสภาพผิวของคนไข้แต่ละบุคคลได้
นอกเหนือจากการฉีดฟิลเลอร์บริเวณใบหน้า ด้วยฟิลเลอร์ Juvederm แล้ว ก็ยังสามารถนำไปฉีดเพื่อปรับปรุงโครงสร้างและคุณภาพผิวในจุดอื่นๆได้อีก เช่น การฉีดแก้ไขผิวบริเวณลำคอ หลังมือ หลังเท้า เนินอก บริเวณอวัยวะเพศภายนอกของผู้หญิง เป็นต้น

ฟิลเลอร์ Juvederm ราคาเท่าไร
คำถามที่ผู้เข้ารับบริการอยากทราบเป็นอันดับต้น ๆ คือ ฟิลเลอร์ Juvederm ราคาเท่าไหร่ แน่นอนว่าขึ้นอยู่กับว่าฟิลเลอร์ที่ใช้เป็น ฟิลเลอร์ที่ได้รับการรับรองจากอย.ไทย อย่างแท้จริงหรือเปล่า หรือเป็นยาฟิลเลอร์ปลอม ที่ลักลอบนำเข้าแบบผิดกฎหมาย หรือตัวยาอาจไม่ใช่ไฮยารูลอนิกแอซิดจริงๆ ราคาก็อาจจะถูกลง แต่อันตรายที่ได้รับเพิ่มสูงขึ้น เพื่อประกอบการตัดสินใจของผู้เข้ารับบริการรักษาด้วยฟิลเลอร์ สำหรับราคานี้อ้างอิงจากเว็บไซต์กลางทั่วโลกว่าโดยเฉลี่ยแล้ว
ราคาฟิลเลอร์ Juvederm ที่แพทย์ทั่วโลกฉีดรักษากันนั้นจะอยู่ที่ราคา 450-600 USD หรือ หากคิดเป็นเงินไทยก็ตกประมาณ 15,000-20,000 บาท ซึ่งเรทราคานี้เป็นราคาที่มาจากศูนย์การจัดจำหน่ายยาทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นประเทศในโซนเอเชีย ยุโรป หรืออเมริกาก็ตาม ดังนั้นสำหรับผู้เข้ารับบริการก็ควรตระหนักถึงราคาจุดนี้ให้ถี่ถ้วน
ข้อปฏิบัติก่อนและหลังการฉีดฟิลเลอร์ Juvederm
ก่อนการฉีดรักษาด้วยฟิลเลอร์ Juvederm
- แจ้งโรคประจำตัว หรือยาที่ใช้ประจำให้แพทย์ที่ทำการรักษาทราบ เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนทำการฉีดฟิลเลอร์
- งดออกกำลังกายก่อนทำการฉีดรักษาฟิลเลอร์ ใน 2-3 ชั่วโมง
- หากรับประทานอาหารเสริมกลุ่มที่ทำให้เลือดออกง่าย เช่น น้ำมันปลา วิตามินอี ใบแปะก๊วย แนะนำให้หยุดรับประทานก่อนทำการฉีดฟิลเลอร์ ประมาณ 3-7 วัน เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดรอยฟกช้ำ

หลังการฉีดรักษาด้วยฟิลเลอร์ Juvederm

- งดแต่งหน้า ในช่วงระยะเวลา 12 ชั่วโมงแรก หรือ จนกว่าแผลรอยเข็มบริเวณใบหน้าจะหายสนิท
- งดการทำทรีทเม้นท์ นวดหน้า หรือสัมผัสความร้อนในบริเวณที่ทำการรักษาด้วยฟิลเลอร์ ในช่วง 2 สัปดาห์
- แนะนำให้ดื่มน้ำสะอาดปริมาณที่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย
- หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนัก ในช่วง 24 ชั่วโมงแรกหลังการรักษา
- หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่กระตุ้นการอักเสบ เช่น ของหมักดอง เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ในช่วง 3-7 วัน
- งดเข้าอบไอน้ำ (Stream) ซาวหน้า โยคะร้อน เป็นระยะเวลา 2 สัปดาห์
- หากมีอาการผิดปกติให้รีบเข้าพบแพทย์ที่ทำการรักษาฟิลเลอร์ Juvederm
ผลลัพธ์หลังการฉีดรักษาฟิลเลอร์ Juvederm
การเติมเต็มด้วยฟิลเลอร์จะเกิดผลลัพธ์หลังทำทันที ทั้งนี้ขึ้นกับปริมาตรฟิลเลอร์ที่เติมเข้าไป หรือปัญหาเดิมที่คนไข้มีอยู่ ข้อได้เปรียบของฟิลเลอร์ Juvederm นอกจากจะอยู่ได้นานกว่าฟิลเลอร์แบรนด์อื่น ๆ แล้ว ยังมีความเข้มข้นของไฮยารูลอนิกแอซิดที่สูง ทำให้ตัวยาอุ้มน้ำและฟูได้มาก ผลลัพธ์หลังการรักษาที่เกิดขึ้นจึงเป็นที่น่าพอใจ และถูกเลือกใช้โดยแพทย์ผิวหนังและความงามทั่วโลก
สำหรับระยะเวลาในการพักฟื้นหลังการฉีดฟิลเลอร์นั้นจะต้องเลย เพราะไม่จำเป็นต้องเก็บตัว คนไข้ที่รับการรักษาสามารถเข้าสังคมและทำงานได้ปกติทันที โดยไม่เป็นที่ผิดสังเกต ของบุคคลรอบตัว นี่จึงเป็นผลลัพธ์หลังการรักษาที่ทรงเสน่ห์ของการฉีดฟิลเลอร์ เมื่อเปรียบเทียบกับการทำศัลยกรรมอื่น ๆ ที่ต้องใช้ระยะเวลาในการพักฟื้นที่ยาวนาน มีรอยแผลเห็นได้ หรือ เป็นที่จับผิดของบุคคลอื่นในสังคม

ฟิลเลอร์ Juvederm อันตรายไหม
สำหรับตัวยาฟิลเลอร์ Juvederm ไม่ได้มีอันตรายและไม่น่ากลัว หากเป็นตัวยาแท้ ที่ผลิตอย่างถูกต้องจากบริษัทโดยตรง ปกติการฉีดฟิลเลอร์ต้องทำโดยแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญในด้านการปรับรูปหน้าเท่านั้น ก็จะลดความเสี่ยงในแง่ของอันตรายจากการฉีดฟิลเลอร์ลงไปได้
ดังนั้นก่อนทำการรักษาด้วยการฉีดฟิลเลอร์ ผู้ที่สนใจก็ควรศึกษาข้อมูลของฟิลเลอร์อย่างรอบคอบ ซึ่งไม่ได้หมายความว่าฟิลเลอร์ Juvederm สามารถเกิดอันตรายเท่านั้น แต่หมายถึง ทุก ๆ การฉีดสารเติมเต็มสามารถเกิดอันตรายแบบเดียวกันได้ สำหรับอันตรายจากการฉีดสารเติมเต็มที่เกิดได้ มีดังนี้


- ฟิลเลอร์อุดตันเข้าสู่เส้นเลือด ทำให้เกิดการเนื้อตาย หรือตาบอดได้ แก้ไขโดยการเลือกฉีดกับแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญในการรักษา ใช้เข็มปลายทู่ที่มีคุณภาพที่ดีในการรักษาจะลดความเสี่ยงประการนี้ลงไปได้
- ฟิลเลอร์ บวมอักเสบ ติดเชื้อ โดยปกติประการนี้มักเกิดจากการดูแลหลังการรักษาไม่ดี หรือ ไม่ได้ทำการรักษาในสถานพยาบาลอย่างถูกต้อง สำหรับการฉีดฟิลเลอร์เถื่อน ฟิลเลอร์หมอกระเป๋า จะมีโอกาสเกิดการติดเชื้อได้ง่าย
- ฟิลเลอร์เป็นก้อน ยิ้มไม่เป็นธรรมชาติ การแก้ไขโดยการฉีดฟิลเลอร์ประเภทที่ต้องใช้ความละเอียดอ่อน บางจุดนี้ ผู้เข้ารับการรักษาต้องเลือกแพทย์ที่มีความสามารถในการฉีดฟิลเลอร์ รวมถึงรู้คุณสมบัติของตัวยาที่จะใช้ในการรักษาอย่างถูกต้อง
การฉีดฟิลเลอร์ หรือแม้แต่สารเติมเต็มประเภทอื่น ๆ สามารถเกิดอันตรายได้เช่นเดียวกัน หากแพทย์ที่ทำการรักษาไม่เชี่ยวชาญมากพอ ไม่รู้รายละเอียดของรุ่นยาที่ถูกต้อง หรือไม่ทราบวิธีการแก้ไขปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้จากการฉีดฟิลเลอร์



ฟิลเลอร์ Juvederm อย.ไทย จุดจับผิดกับฟิลเลอร์ปลอม
ฟิลเลอร์แท้ อย.ไทย ที่เราพูด ๆ กันนั้น หมายถึงฟิลเลอร์ที่นำเข้ามาประเทศไทยอย่างถูกต้อง ผ่านและได้รับการตรวจสอบอย่างถูกต้องจากองค์การอาหารและยาแห่งประเทศไทย ว่าสามารถใช้เพื่อทำการรักษาได้ มีประสิทธิภาพและปลอดภัย แต่ก็มีบางสถานพยาบาล มีการลักลอบนำเข้ามาแบบไม่ถูกต้องเป็นยาที่ตรวจสอบไม่ได้ว่ามีที่มาจากไหน และไม่ได้ข้อสรุปว่าเป็นฟิลเลอร์แท้ที่เป็นสารไฮยารูลอนิกแอซิดหรือไม่ ซึ่งวิธีการตรวจสอบฟิลเลอร์แท้ที่ถูกต้องทำได้ ตามวิธีดังต่อไปนี้
- ตรวจสอบได้กับบริษัทที่เป็นตัวแทนในการจัดจำหน่ายฟิลเลอร์ Juvederm โดยผู้ที่รับผิดชอบในการจัดส่ง คือ DKSH หรือตรวจสอบกับบริษัทยา Allergan
- ชื่อยาบางรุ่นเมื่อเข้าประเทศไทยมาแล้ว จะได้ทะเบียน อย.ไทยอีกชื่อ ได้แก่ รุ่นฟิลเลอร์ Juvederm Ultra XC และ ฟิลเลอร์ Juvederm Ultra plus XC ซึ่งในต่างประเทศจะเป็นชื่อรุ่น Ultra 3 และ Ultra 4
- สังเกตดูที่ฉลากกำกับยาจะต้องเป็นเอกสารกำกับยาที่ข้างกล่องเป็นภาษาไทย
สรุป
ฟิลเลอร์ Juvederm คือสารเติมเต็ม HA ที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางจากแพทย์ทั่วโลก ซึ่งผลิตที่สหรัฐอเมริกา มีผลรองรับทางงานวิจัยอย่างมากมาย ถึงประสิทธิภาพและความปลอดภัยของตัวยา ทำให้ผู้ที่รับการฉีดฟิลเลอร์ไปสามารถมั่นใจได้มากกว่าแค่เรื่องของความสวยงาม แต่ผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้นในระยะยาวก็จะดีไปด้วย
"รวมทุกเรื่องเกี่ยวกับความงาม โดยทีมแพทย์ DoctorsAesthetic"
