การฉีดฟิลเลอร์เป็นหัตถการหนึ่งที่ต้องใช้เข็มในการเติมเต็ม จึงทำให้มีหลายคนกังวลว่าฉีดฟิลเลอร์ เจ็บไหม หรือมีผลข้างเคียงอะไรที่ต้องกังวลจากการฉีดฟิลเลอร์ ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีที่ควรจะกังวล เพราะถึงแม้ว่าการฉีดฟิลเลอร์จะเป็นหัตถการที่ปลอดภัย แต่ก็ไม่ควรละเลยอันตรายและผลข้างเคียงที่อาจจะเกิดขึ้นโดยไม่คาดคิดก็ได้

ฉีดฟิลเลอร์ เจ็บไหม
ถ้าตอบว่าไม่เจ็บเลยคงเป็นเรื่องโกหก เพราะไม่ว่าหัตถการใดๆ ต้องมีความเจ็บอยู่แล้ว แต่เรียกว่าเป็นความเจ็บที่สามารถทนได้ ทั้งระหว่างทำและหลังทำ และจากเสียงตอบรับจากลูกค้าส่วนใหญ่บอกว่าจะเจ็บในขั้นตอนที่ฉีดยาชาเท่านั้น ถ้าฉีดยาชาแล้วจะไม่ค่อยรู้สึกเจ็บ เนื่องจากการเข้ารับบริการการฉีดฟิลเลอร์ นั้นมีขั้นตอนการทายาชา โดยออกฤทธิ์โดยระงับการทำงานของระบบประสาท ทำให้ผิวหนัง และเนื้อเยื่อบริเวณโดยรอบที่ทายาไร้ความรู้สึกชั่วคราว นำมาใช้เพื่อระงับอาการปวดตามตำแหน่งต่าง ๆ
ซึ่งจะช่วยบรรเทาความเจ็บปวดระหว่างการฉีดฟิลเลอร์ รวมไปถึงตัวของฟิลเลอร์เองมีส่วนผสมของยาชา (Lidocane) อยู่ด้วย ดังนั้นระหว่างการฉีดฟิลเลอร์ สามารถมั่นใจได้ว่าแทบจะไม่รู้สึกเจ็บเลย รวมทั้งหลังยาชาหมดฤทธิ์แล้ว ก็จะไม่มีความรู้สึกเจ็บเช่นกัน

ผลข้างเคียงหลังจากฉีดฟิลเลอร์
หลังจากฉีดฟิลเลอร์ไป ผิวของเราอาจจะมีความเซ็นต์ซิทีฟมากกว่าปกติ ด้วยรอยเข็มหลายๆ รูบนหน้า การโดนความร้อนอาจทำให้เกิดรอยแดง ระคายเคืองและผื่นขึ้นได้
เป็นผื่นลมพิษแบบรุนแรง (Angioedema)
สามารถพบได้น้อยมาก ซึ่งหากมีอาการคนไข้ควรรีบพบแพทย์เพื่อทำการรักษาแบบทันที
แพ้ฟิลเลอร์แบบก้อนนูนแดง อักเสบ
หลังจากการฉีดฟิลเลอร์ผ่านไปแล้วหลายเดือนหลายปี ซึ่งอาการแพ้แบบนี้พบได้น้อยมาก โดยอาจจะขึ้นอยู่กับภูมิคุ้มกันของคนไข้ด้วย เมื่อพบอาการดังกล่าวไม่ควรกดนวดด้วยตัวเอง ควรพบแพทย์ผู้ทำการหัตถการให้เพื่อทำการแก้ไข
ติดเชื้อภายหลังการฉีดฟิลเลอร์
โดยอาจจะแดง ร้อน ปวด มีหนองบริเวณที่ฉีด โดยในกรณีนี้ อาจจะเกิดจากการที่ท่านเลือกคลินิกที่ไม่ได้มาตรฐาน หรือ เทคนิคการฉีดไม่ถูกต้อง อุปกรณ์ไม่สะอาด
หลอดเลือดเกิดการอุดตัน
เกิดจากการฉีดฟิลเลอร์ผิดตำแหน่ง ฉีดโดนบริเวณหลอดเลือด ทำให้หลอดเลือดเกิดการอุดตันจนนำไปสู่บริเวณที่เส้นเลือดนั้นมาเลี้ยงเกิดอาการเนื้อตายได้ (Necrosis)
ฉีดฟิลเลอร์แล้วตาบอด
เกิดจากการที่ฟิลเลอร์นั้นเข้าไปบีบ กด หลอดเลือดแดง ที่มีแขนงต่อไปที่หลอดเลือดแดงที่เลี้ยงจอประสาทตา ทำให้สูญเสียการมองเห็นได้

ฉีดฟิลเลอร์แล้วต้องกลับมาฉีดซ้ำหรือไม่ ?
ถ้าต้องการคงผลลัพธ์ที่ต้องการเหมือนเดิมทุกประการ จำเป็นต้องไปเติมฟิลเลอร์เพื่อให้ผลลัพธ์เหมือนเดิม เพราะฟิลเลอร์แท้ที่ฉีดเข้าไป ก็จะสลายหายไปเองจนหมดสิ้นโดยไม่ทิ้งสิ่งตกค้างเอาไว้บนผิว จึงมั่นใจได้ว่า หลังจากที่ฟิลเลอร์สลายไปแล้ว จะไม่มีสิ่งแปลกปลอมใดหลงเหลืออยู่
สำหรับใครที่กลัวว่าหลังจากฟิลเลอร์แล้วไม่กลับมาฉีด ไม่ต้องกังวลว่าผิวหน้าจะเหี่ยวลงกว่าเดิม เพราะสารฟิลเลอร์ที่ฉีดเข้าไปในผิวหน้า มีคุณสมบัติการช่วยเติมเต็มผิวหน้าที่มีร่องรอยบริเวณต่างๆ ให้กระชับมากขึ้น แม้จะสลายไปแล้วก็ยังมีผลพลอยได้คือการฟื้นฟูสภาพผิวของคนไข้ให้ดีกว่าเดิม ทำให้บริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์นั้นดีขึ้นแม้ไม่ได้รับการเติมเต็มต่อ
ข้อควรปฏิบัติหลังการฉีดฟิลเลอร์
หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์
ห้ามนวด กด รวมถึงการสัมผัสแรงๆในบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ เพราะอาจทำให้ฟิลเลอร์ที่ฉีดเข้าไปเคลื่อนที่ไปจากบริเวณที่ฉีด และในบางเคสแพทย์ใช้การฉีดฟิลเลอร์เพื่อยกหน้า การนวดทำให้ผลลัพธ์ไม่เป็นไปตามที่แพทย์วางแผนไว้หรือทำให้ไม่ได้ผล ทั้งนี้หากหลังฉีดฟิลเลอร์คนไข้มีอาการคันหรือระคายเคือง ห้ามเกาโดยเด็ดขาดเพราะอาจทำให้เสี่ยงต่อการอักเสบของผิวได้ หากอาการคันไม่หายไปภายใน 3 วัน ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อความปลอดภัย

หลีกเลี่ยงการโดนแสงแดด และความร้อน
ช่วง 48 ชั่วโมงแรก แพทย์จะแนะนำไม่ให้ผู้เข้ารับการฉีดฟิลเลอร์โดนความร้อนที่มีอุณหภูมิสูง เช่นการเข้าห้องซาวน่า ทั้งนี้ไม่ใช่เพราะความร้อนจะทำให้ฟิลเลอร์สลายอย่างที่ใครๆพูดกัน แต่ความร้อนทำให้ผิวยืดหดมากกว่าปกติ ส่งผลต่องการเซทตัวของฟิลเลอร์
หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารเสริมบางชนิด หรือใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีส่วนประกอบของกรดผลไม้
ควรหลีกเลี่ยงการทานวิตามิน เช่น กิงโกะ น้ำมันพริมโรส กระเทียม โสม และวิตามินอี ทั้งก่อนและหลังการฉีดฟิลเลอร์ ทั้งนี้ไม่ใช่ว่าสารเหล่านั้นจะทำปฎิกริยาหรือส่งผลร้ายกับการฉีดฟิลเลอร์ แต่สารเหล่านั้นจะทำให้คนไข้เสี่ยงกับ “ภาวะช้ำ” ได้ง่ายกว่าปกติ นอกจากนี้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีส่วนประกอบของ AHA BHA หรือ Retinoids ก็อาจทำให้เกิดการระคายเคืองกับผิวและบริเวณที่ฉีดสารฟิลเลอร์ได้อีกด้วย

หลีกเลี่ยงการใช้ยาที่มีฤทธิ์ต้านการแข็งตัวของเลือด
ควรหลีกเลี่ยงยาที่มีฤทธิ์ต้านการแข็งตัวของเลือด เช่น แอสไพริน ไอบูโพรเฟน และยาแก้อักเสบบางชนิด ทั้งก่อนและหลังการฉีดฟิลเลอร์ เพราะการฉีดฟิลเลอร์เป็นการฉีดลงไปในผิวหนังชั้นลึก ถ้าเกิดโดนเส้นเลือดขณะฉีดอาจทำให้เลือดหยุดไหลช้าทำให้ช้ำง่ายกว่าปกติ ดังนั้นเพื่อความปลอดภัย และไม่เสี่ยงช้ำควรหลีกเลี่ยงการใช้ยาดังกล่าวอย่างน้อย 1 สัปดาห์
หลีกเลี่ยงการแว๊กซ์ ถอน ย้อมสีขน หรือใช้ครีมกำจัดขน
หลังจากฉีดฟิลเลอร์แล้วผิวหนังบริเวณที่ฉีดอาจมีความบอบบางลงชั่วคราว ประมาณ 2 – 3 วัน ซึ่งหากในระหว่างนี้มีการกำจัดขนด้วยวิธีต่าง ๆ เช่นการแว๊กซ์ขน ถอนขน ใช้ครีมกำจัดขน หรือทำการย้อมสีเส้นขน ก็อาจทำให้ผิวเกิดการระคายเคือง เสี่ยงต่อการอักเสบและติดเชื้อได้


ดื่มน้ำมาก ๆ
ฟิลเลอร์คือสารไฮยาลูลอนิคซึ่งมีฤทธิ์ในการอุ้มน้ำได้ดี หลังจากฉีดฟิลเลอร์ในช่วง 4 – 5 วันแรก แพทย์จึงแนะนำให้ดื่มน้ำให้อย่างน้อยวันละ 8 – 10 แก้ว หรือประมาณ 2 ลิตรต่อวันเพื่อผลลัพธ์ที่ดีและคงทน เพราะการดื่มน้ำมาก ๆ จะช่วยให้ฟิลเลอร์ที่เป็นสารอุ้มน้ำมีประสิทธิภาพที่ดีขึ้นและทำให้บริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ดูเต็มเป็นธรรมชาติ
หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่
หลังจากฉีดฟิลเลอร์แนะนำให้งดการดื่มแอลกอลฮอล์ และของมึนเมา อาจจะเผลอนวด เผลอเท้าคางได้ และการดื่มแอลกอฮอล์ทำให้เลือดสูบฉีด อาจจะทำให้เลือกออกในบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ได้
ฉีดฟิลเลอร์ Filler อันตรายไหม
ประเภทของฟิลเลอร์นั้น มีทั้งหมด 3 ประเภท โดยฟิลเลอร์ที่ความปลอดภัยสูง อย. ไทยรับรองให้สามารถฉีดรักษาคนไข้เพื่อความสวยงามได้ คือ ฟิลเลอร์ประเภทชั่วคราว จากสารไฮยาลูรอนิค แอซิด ( Hyaluronic Acid ) เพราะสามารถสลายตัวได้เอง 100% ไม่ทิ้งสารตกค้าง จึงไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย แต่นอกจากนั้นแล้วเรื่องของความปลอดภัยก็มีปัจจัยอื่น ๆ เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ได้แก่
ความรู้ความเชี่ยวชาญของแพทย์
สำหรับการฉีดฟิลเลอร์หลายคนอาจคิดว่า เป็นเพียงแค่การฉีดตัวยาลงบนผิว ดังนั้นจะฉีดกับแพทย์ท่านไหนก็เหมือนกัน แต่จริง ๆ แล้วแม้ว่าแพทย์ทุกคนจะฉีดยาได้ แต่การทำหัตถการเกี่ยวกับใบหน้า อย่างการฉีดฟิลเลอร์ ต้องอาศัยความรู้ ประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญเป็นอย่างมาก เนื่องจากปัญหาของคนไข้แต่ละคนไม่เหมือนกัน แพทย์จึงต้องมีความเข้าใจเรื่องของโครงสร้างผิว เพื่อฉีดแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุดและแม่นยำ ไม่เกิดความผิดพลาด เพื่อความปลอดภัยของคนไข้เอง อีกทั้งแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านการปรับรูปหน้า จะสามารถประเมินรูปหน้าได้อย่างเหมาะสมว่าบริเวณที่ต้องการแก้ไขนั้น ควรใช้ฟิลเลอร์รุ่นไหน ปริมาณเท่าไหร่ เพื่อผลลัพธ์ที่ออกมามีความสวยเป็นธรรมชาติมากที่สุด
ฟิลเลอร์ของแท้
ฟิลเลอร์ที่ฉีดเข้าไปบนใต้ช้ันผิว บนใบหน้าของเราต้องเป็นฟิลเลอร์แท้ ยี่ห้อและรุ่นต้องผ่านการรับรองจาก อย. ไทย เท่านั้น ซึ่งเราสามารถตรวจสอบได้จากฉลากข้างกล่อง จะมีชื่อของผู้นำเข้าอย่างถูกต้อง และมีเลขอ้างอิง Lot. รวมถึงวันหมดอายุอย่างชัดเจน โดยสามารถโทรตรวจสอบได้เอง เช่น ฟิลเลอร์ ยี่ห้อ Juvederm สามารถโทรเช็คได้ที่บริษัท Allergan Thailand โทร.02-6404999 ต่อ 1 และ Restylane มีการตรวจสอบด้วยแอปพลิเคชัน eZ Tracker นอกจากนั้นการเลือกฉีดฟิลเลอร์กับคลินิกที่มีความน่าเชื่อ ได้รับมาตรฐานมาอย่างยาวนาน มีเครื่องมือที่ทันสมัย ก็สามารถเพิ่มความมั่นใจให้กับเราได้ว่าฟิลเลอร์ที่ใช้เป็นของมีคุณภาพ และช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอันตรายลงได้อีกด้วย
สรุป
ฉีดฟิลเลอร์ เจ็บไหม ต้องบอกว่ามีความเจ็บเพียงเล็กน้อยในขั้นตอนการฉีดยาชาเท่านั้น จากนั้นก็จะไม่รู้สึกอะไรอีกจากฤทธิ์ของยาชา อยู่ในระดับที่ทนได้ และจะรู้สึกถึงการเคลื่อนตัวเล็กน้อยตอนที่กำลังฉีดฟิลเลอร์เข้าไป
"รวมทุกเรื่องเกี่ยวกับความงาม โดยทีมแพทย์ DoctorsAesthetic"
